ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร ?
ฟิลเลอร์ปาก คือ การใช้สารเติมเต็มที่ได้จากธรรมชาติอย่างสารไฮยารูลอนมาฉีดบริเวณผิวหนังริมผีปาก โดยจุดประสงค์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากคือ การปรับริมฝีปากให้มีความอวบอิ่มมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีริมฝีปากไม่ได้รูปทรงสวย ตลอดจนปัญหาปากแห้ง มองแล้วรู้สึกไม่สวยอวบอิ่ม การฉีดฟิลเลอร์ปากก็จะช่วยให้เรียวปากเอิบอิ่มแลดูสุขภาพดี มีความเซ็กซี่ โดดเด่น และสวยสะดุดตามากยิ่งขึ้น
โดยการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากสาวๆ ฝั่งตะวันตก ที่มักจะฉีดฟิลเลอร์ปากให้มีความอวบอิ่ม เซ็กซี่มากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ปากน่าจูบ น่าสัมผัสแล้ว ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปในบริเวณส่วนต่างๆ ของริมฝีปากนั้น ก็จะช่วยให้รูปปากมีสัดส่วนที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ใบหน้าโดยรวมของคุณออกมามีความเยาว์วัยมากขึ้นกว่าเดิมได้ด้วย
หัวข้อต่างๆของการ ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำให้หน้าเด็กลงจริงหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากดีอย่างไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ปลอดภัยหรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีด ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้เวลาในการฉีดเท่าไหร่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีดูแลตัวเองหลังการฉีดอย่างไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากจะบวมกี่วัน ?
หากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
การฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานกี่เดือน ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้ผลเทียบเท่าการผ่าตัดศัลยกรรมปากหรือไม่ ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม ?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม การฉีดฟิลเลอร์ปากจะไม่อันตรายเลย หากฉีดด้วยสารฟิลเลอร์ที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจากอย. และฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง เพราะแพทย์จะสามารถประเมินได้ว่าควรใช้สารฟิลเลอร์ปริมาณเท่าใดในการฉีด และควรปรับรูปทรงอย่างไรเพื่อให้ริมฝีปากออกมามีสัดส่วนที่สวยงาม โดยปกติแล้วลักษณะริมฝีปากคนเรานั้นจะมีความแตกต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของแพทย์เป็นพิเศษ ในการปรับแต่งรูปทรงริมฝีปากให้ออกมารับกับใบหน้าของบุคคลนั้นๆ มากที่สุด
รวม Q/A ที่คนอยากฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องรู้ก่อนฉีด !!
ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก จำเป็นจะต้องศึกษารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ในส่วนดังกล่าวอย่างถี่ถ้วนเสียก่อน เพื่อให้คุณได้ทราบถึงข้อดี ข้อเสีย อันตราย และทุกเรื่องสำคัญต่างๆ ที่ควรรู้ก่อนฉีด ซึ่งเราก็ได้รวบรวมมาฝากกันแล้วดังนี้
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก ทำให้หน้าเด็กลงจริงหรือไม่ ?
A : จากผลการวิจัยทางด้าน Anti-Aging พบว่า เมื่อคนเราอายุมากขึ้น ริมฝีปากจะเริ่มบางลงเรื่อยๆ เนื่องจากการจางหายของสารเติมเต็มที่อยู่บริเวณริมฝีปาก ส่งผลให้ผู้ที่มีริมฝีปากบางมากเกินไปจะมีใบหน้าที่ดูแก่กว่าวัยมากขึ้น อีกทั้งยังเห็นริ้วรอยต่างๆ บริเวณริมฝีปากอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อปากคนเราบางลง ใบหน้าจึงดูแก่ตามไปด้วย ดังนั้นเพื่อให้ริมฝีปากมีสารเติมเต็มที่เหมาะสม การฉีดฟิลเลอร์เพื่อทดแทนสารดังกล่าว จึงสามารถตอบโจทย์ให้ผู้ที่มีริมฝีปากบาง กลับมาริมฝีปากที่อวบอิ่ม น่าจุ๊บและมีใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยได้ อีกทั้งริมฝีปากยังสัมพันธ์กับการยิ้ม หากคุณมีริมฝีปากที่อวบอิ่มมากเท่าไหร่ ก็จะช่วยส่งผลให้รอยยิ้มดูสดใส น่ามองมากขึ้นเท่านั้น ต่างจากผู้ที่มีริมฝีปากบาง ซึ่งเวลายิ้มแล้วจะรู้สึกไม่เป็นมิตร มองดูแล้วไม่สวยงาม
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปากดีอย่างไร ทำไมถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ?
A: ในปัจจุบันการฉีดฟิลเลอร์ปากได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในลักษณะคล้ายๆ กับการผ่าตัดศัลยกรรมปาก เพียงแต่การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น จะไม่ได้อยู่ยาวนานถาวร เพราะสารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปากจะคงอยู่ภายในชั้นผิวราวๆ 1 ปี ซึ่งหลังจากนั้นจะสลายหายไปตามธรรมชาติ อย่างไรก็ดี การฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นวิธีที่เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปาก โดยเห็นผลทันทีหลังจากฉีด กับการมีรูปปากที่อวบอิ่ม สวยงาม โดยไม่ต้องพักฟื้น เพราะฉีดเสร็จแล้ว ก็สามารถแต่งหน้า และใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งยังสามารถปรับรูปทรงของปากได้ตามต้องการ หากรู้สึกไม่พอใจในผลลัพธ์หลังการฉีด ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปได้
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก ปลอดภัยหรือไม่ ?
A : เนื่องจากสารที่นำมาฉีดบริเวณริมฝีปากนั้น เป็นสารเติมเต็มที่ได้จากธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือระคายเคือง โดยเป็นสารไฮยาลูรอนที่มีความใกล้เคียงกับสารที่ร่างกายมนุษย์สามารถผลิตขึ้นเองได้ ดังนั้นหากใช้สารฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ถูกต้องตามหลักอนามัย หรือใช้ของแท้ ได้รับรองความปลอดภัยจาก อย. ก็จะเกิดความปลอดภัยกับผู้ฉีด ทั้งนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากแต่ละครั้ง จำเป็นต้องอยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพของการฉีดฟิลเลอร์อย่างเต็มที่ ทำให้คนไข้เกิดความพอใจสูงสุดหลังจากฉีด โดยไม่เกิดอาการข้างเคียงหรืออันตรายตามมา
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก เหมาะกับใคร ?
A : การฉีดฟิลเลอร์บริเวณปากนั้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากไม่ได้รูป โดยมีมุมของริมฝีปากที่หย่อนคล้อย มุมปากตก ไม่ได้สัดส่วน หรือผู้ที่มีริมฝีปากบางเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูแก่เกินวัย และไม่สดใสเหมือนที่เคย
การฉีดฟิลเลอร์ปาก จะช่วยเติมเต็มชั้นผิวภายในริมฝีปาก อีกทั้งยังสามารถยกมุมปากให้เป็นทรงสวยมากขึ้น ทำให้ใบหน้ากลับมามีความสดใส ดูเด็กกว่าวัย ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากทั้งบนล่างไม่เท่ากัน ก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากเพื่อแก้ไขให้ได้รูปทรงที่สวยงามเท่ากันได้ หรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความอวบอิ่มให้ริมฝีปากน่าจูบ น่าสัมผัสมากขึ้น ก็สามารถฉีดสารเติมเต็มฟิลเลอร์ลงไปในชั้นผิวของริมฝีปาก เพื่อทำให้ปากอิ่มฟู มีน้ำมีนวล เมื่อฉีดแล้วจะทำให้ปากสวยงามน่ามองมากขึ้น ทาลิปสติกเมื่อไหร่ก็จะยิ่งเห็นทรงของริมฝีปากชัดเจน
คนไข้สามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้แพทย์วิเคราะห์รูปปากของคุณ ว่าควรแก้ไขในส่วนไหนเป็นสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ในงบประมาณที่กำหนดเอาไว้ และเพื่อให้ใบหน้าของคุณกลับมามีความสดใส ดูอ่อนกว่าวัยมากขึ้น
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีด ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น มีวิธีเตรียมตัวคล้ายกับการฉีดฟิลเลอร์ประเภทอื่นๆ โดยคนไข้จำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการฉีดทุกครั้งเพื่อบอกรายละเอียดจำเป็นที่แพทย์จะต้องรู้ก่อนการฉีด เช่น ประวัติการแพ้ยา, โรคประจำตัว เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ปาก โดยสตรีมีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างการให้นมบุตร, ผู้ที่ประวัติเลือดไหลไม่หยุด, มีประวัติแพ้ยาชา ควรหลีกเลี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์ทุกประเภท เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงอันตรายได้
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้เวลาในการฉีดเท่าไหร่ ?
A : หลังจากแพทย์สอบถามรายละเอียดต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ โดยแพทย์จะฉีดยาชาบริเวณริมฝีปาก ซึ่งในขั้นตอนนี้ คุณจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ที่คุณจะไม่รู้สึกเจ็บ เพราะยาชาออกฤทธิ์เรียบร้อย โดยในขั้นตอนการฉีดนั้นแพทย์จะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับปริมาณฟิลเลอร์ที่ฉีด และเทคนิคในการฉีดของแพทย์ ซึ่งบางรายอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากัน
หลังจากฉีดเสร็จแล้ว แพทย์จะแนะนำให้คนไข้นอนราบสักพัก เพื่อให้ฟิลเลอร์ค่อยๆ คงตัวภายในริมฝีปาก จากนั้นก็จะสามารถกลับบ้านได้ตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่อย่างใด
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก เจ็บไหม ?
A : เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ปากทุกครั้ง แพทย์จะฉีดยาชาให้กับคุณบริเวณริมฝีปากก่อน เพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บที่จะเกิดขึ้นขณะฉีดฟิลเลอร์ โดยคุณจะรู้สึกเจ็บขณะฉีดยาชาเล็กน้อย ส่วนอาการเจ็บขณะฉีดฟิลเลอร์นั้น จะเจ็บมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่ฉีดบนริมฝีปาก และความหนาของริมฝีปากคนไข้ หากมีผิวริมฝีปากที่หนากว่าปกติ ก็จะเกิดอาการเจ็บได้ง่ายมากกว่าผู้ที่มีริมฝีปากบาง
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีวิธีดูแลตัวเองหลังการฉีดอย่างไร ?
A : ขั้นตอนในการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อให้ผลลัพธ์ของการฉีดเกิดประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น มีดังนี้
1.ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังจากการฉีด แนะนำว่าไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ หรืออยู่ในสถานที่ที่ร้อนจัด หรือมีอุณหภูมิสูง เพราะอาจจะทำให้เกิดรอยแดงบริเวณริมฝีปากได้ และควรงดสัมผัส ลูบ คลำ คลึง นวด บริเวณที่ฉีด เพราะอาจจะทำให้สารฟิลเลอร์ภายในริมฝีปากเคลื่อนตัว จนผิดรูปไปจากสัดส่วนเดิมได้
2.ในช่วง 48 ชั่วโมงหลังจากการฉีด ควรงดดื่มแอลกอฮอล์, งบสูบบุหรี่ หรืองดจูบ ดูด หรือกิจกรรมที่ต้องใช้ปากอย่างรุนแรง
3.ในช่วง 4 วันแรกหลังจากการฉีด ควรดื่มน้ำในปริมาณมากๆ เพราะน้ำจะช่วยให้เติมเต็มของสารฟิลเลอร์ในริมฝีปากคงสภาพอยู่ได้นานขึ้น โดยปริมาณน้ำที่เหมาะสมสำหรับการบริโภคในช่วงเวลาดังกล่าวก็คือ วันละ 8-10 แล้ว หรือปริมาณ 2 ลิตรต่อวัน
4.ภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังจากการฉีด ควรงดรับประทานยาในกลุ่มแอสไพริน ยาแก้ปวดต่างๆ และงดรับประทานวิตามินประเภท Vitamin E, ใบแปะก๊วย อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของ BHA และ AHA
5.ภายใน 2 สัปดาห์แรกหลังจากการฉีด ควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร้อน อาหารรสจัด อาหารรสเผ็ด เพราะอาจจะส่งผลต่อสารฟิลเลอร์ที่ฉีดลงไปได้ หากจำเป็นต้องทำทรีทเมนต์บนผิวหน้า ให้หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์, RF หรือ Ionto ไปก่อนราวๆ 2 สัปดาห์ จนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่
6.หลังจากผ่านพ้น 2 สัปดาห์ไปแล้ว หากไม่มีอาการผิดปกติอะไรบริเวณที่ฉีด คนไข้ก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณริมฝีปากด้วยความรุนแรง เพื่อป้องกันไม่เกิดผลกระทบต่อสารฟิลเลอร์ที่อยู่ภายในบริเวณริมฝีปากมากที่สุด ซึ่งจะช่วยให้สารฟิลเลอร์คงสภาพอยู่ได้นานมากขึ้น
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
A : ผลข้างเคียงหลังจากการฉีดริมฝีปาก ที่พบได้ส่วนใหญ่คือ อาจจะมีรอยบวมแดงบริเวณที่ฉีด หรืออาจจะรู้สึกเจ็บปวดคล้ายอาการอักเสบ หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ ซึ่งหากมีอาการปวด คนไข้สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ ส่วนอาการบวมแดงนั้นจะหายเป็นปกติหลังจากฉีดไม่กี่สัปดาห์
ผลข้างเคียงอาจจะเกิดขึ้นได้จากการที่คนไข้ฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยสารฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นสารที่ไม่มีการย่อยสลาย ทำให้เกิดอาการอักเสบ และจับตัวเป็นก้อนแข็ง ส่งผลให้ริมฝีปากผิดรูปทรงได้ หากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ให้คุณรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยด่วน เพราะอาจจะมีผลข้างเคียงอันตรายอื่นๆ ตามมา
Q : หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ปากจะบวมกี่วัน ?
A : อาการบวมหลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากนั้น จะเกิดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับจำนวนครั้งที่เข็มฉีดยาจิ้มลงไปบนริมฝีปากของคุณ หากจิ้มด้วยความรุนแรง ขาดเทคนิคในการฉีดที่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลให้ริมฝีปากของคุณเกิดอาการบวมช้ำ และเป็นรอยแดงได้ง่าย ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากฉีดราวๆ 1-4 สัปดาห์ โดยคนไข้สามารถทาลิปสติกเพื่อกลบรอยดังกล่าว และใช้ชีวิตได้ตามปกติ
Q : หากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วไม่พอใจในผลลัพธ์ สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?
A : ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปากก็คือ สารที่ใช้ฉีดลงไปบริเวณริมฝีปาก จะสลายหายไปได้เองตามธรรมชาติภายในระยะเวลา 5 เดือน – 1 ปี ซึ่งหลังจากสารสลายหายไปแล้ว คนไข้อาจจะกลับมาฉีดฟิลเลอร์ซ้ำอีกครั้งเพื่อให้รูปทรงปากยังคงสภาพความนุ่มฟู มีน้ำมีนวลได้ แต่ในกรณีที่ฉีดไปแล้ว และรู้สึกไม่พอใจในผลลัพธ์และสารยังไม่สลายหายไปตามเวลา ก็สามารถกลับมาแก้ไขได้ด้วยการฉีดสารเอ็นไซม์ไฮยารูโรนิเดส ซึ่งเป็นสารสลายฟิลเลอร์ โดยจะสามารถช่วยทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปแล้วค่อยๆ สลายตัวลง และแปรสภาพกลายเป็นน้ำซึมไปตามผิวหนัง หลังจากนั้นก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากซ้ำใหม่ให้ได้รูปทรงที่ต้องการได้ แต่ก็ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด เพราะในบางรายอาจจะต้องเว้นระยะสักพักก่อนจะกลับมาฉีดอีกครั้งได้
Q : การฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังจากการฉีดในครั้งแรก ซึ่งถือเป็นวิธีปรับรูปทรงของริมฝีปากที่ที่รวดเร็วทันใจ เช่นเดียวกับการฉีดฟิลเลอร์บริเวณส่วนอื่นๆ โดยคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ของรูปทรงปากที่ได้สัดส่วน สวยงามมากขึ้น หลังจากการฉีดทันที และจะเห็นผลที่ชัดเจนหลังจากฉีดไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สารฟิลเลอร์เข้าที่แล้ว
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานกี่เดือน ?
A : สารฟิลเลอร์ที่ฉีดบริเวณริมฝีปาก จะคงสภาพอยู่ได้ราวๆ 5 เดือน – 1 ปี แล้วแต่ยี่ห้อของสารฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีด หากเป็นสารฟิลเลอร์คุณภาพดี นำเข้าจากต่างประเทศ ราคาแพง ก็จะสามารถคงสภาพอยู่ได้เป็นปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับดูแลตัวเองหลังฉีดของคนไข้ด้วยว่า เหมาะสมมากน้อยแค่ไหน เพราะหากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด สารฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปก็จะสลายก่อนเวลาที่เหมาะสมได้
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.vsquareclinic.com/tips/filler/
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้ผลเทียบเท่าการผ่าตัดศัลยกรรมปากหรือไม่ ?
A : การฉีดฟิลเลอร์ปาก ได้ผลเทียบเท่าการผ่าตัดศัลยกรรมหรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับเทคนิคที่แพทย์ใช้ในการฉีด เพราะถ้าแพทย์มีความเชี่ยวชาญมาก ก็จะช่วยให้รูปปากของคนไข้เกิดเป็นรูปทรงที่สวยงามได้เทียบเท่ากับการผ่าตัดศัลยกรรมปาก แต่การฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นเป็นการปรับรูปทรงของปากแบบชั่วคราว โดยสารที่ฉีดเข้าไปนั้นเมื่อผ่านไป 5 เดือน – 1 ปี ก็จะสลายหายไปตามธรรมชาติ ทำให้ต้องกลับมาฉีดใหม่ เพื่อคงสภาพของฟิลเลอร์เอาไว้ แตกต่างจากการผ่าตัดศัลยกรรมปาก ที่จะทำให้ปากมีรูปทรงสวยงามถาวร แต่ก็เสี่ยงกับการเกิดผลข้างเคียงต่างๆ ตามมา อีกทั้งการผ่าตัดศัลยกรรมปากนั้น สามารถแก้ไขหลังจากทำแล้วได้ค่อนข้างยาก คนไข้จึงจำเป็นต้องเลือกพิจารณาว่า หัตถการแบบใด ที่เหมาะสำหรับตนเองมากที่สุด เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่พึงพอใจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
Q : ฉีดฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไหร่ ?
A : ราคาฟิลเลอร์สำหรับฉีดบริเวณริมฝีปากนั้น มีราคาที่แตกต่างกันไป แล้วแต่ยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ฉีด รวมถึงปริมาณที่ใช้ฉีดใน 1 ครั้ง โดยราคาส่วนใหญ่ตามคลินิกทั่วๆ ไป ก็จะอยู่ที่ราวๆ 13000 บาท ไปจนถึงมากกว่า 20000 บาท โดยคนไข้สามารถกำหนดงบประมาณขั้นต้นได้ว่า ต้องการฉีดฟิลเลอร์ปากด้วยเรตราคาประมาณไหน ซึ่งแพทย์จะทำการเลือกวิธีและราคาของฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ ทำให้เกิดความคุ้มค่าในการฉีดมากที่สุด
สิ่งที่ต้องคำนึงเอาไว้เป็นสำคัญก็คือ ฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ฉีดปากนั้น หากยิ่งถูกมาก ก็จะยิ่งมีคุณภาพที่ต่ำมากตามไปด้วย เพราะฉะนั้นอย่าเห็นแก่ของราคาถูกเพียงอย่างเดียว เพราะถ้าคุณเสียเงินฉีดฟิลเลอร์ปากราคาถูกมากเกินไป ก็อาจเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียงอันตรายตามมามากเท่านั้น
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ที่ฉีดลงไปบนบริเวณริมฝีปากนั้น จะช่วยเติมเต็มชั้นริมฝีปากในส่วนที่ขาดหาย ให้มีความอิ่มฟู มีน้ำมีนวล จากปากที่เคยแห้งกร้าน หรือมีรูปทรงที่ไม่ได้สัดส่วน ก็จะฟูสวยมากขึ้น นอกจากจะทำให้ริมฝีปากมีเสน่ห์มากขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ใบหน้าของคุณดูเด็กลงอีกด้วย นอกจากนี้การฉีดฟิลเลอร์ปากยังถือว่าเป็นวิธีที่ดีกว่าการผ่าตัดศัลยกรรมปาก เพราะนอกจากจะมาพร้อมวิธีที่เจ็บน้อยกว่าแล้ว สารที่ฉีดเข้าไปในบริเวณริมฝีปากก็จะสลายหายไปได้ตามธรรมชาติภายในระยะเวลาที่เหมาะสม ทำให้คนไข้สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขรูปทรงได้ตามต้องการ แตกต่างจากการศัลยกรรมที่การแก้ไขหลังจากการทำแล้วนั้น เป็นไปได้ยาก อีกทั้งยังต้องใช้เวลาพักฟื้นนานด้วยเช่นกัน กว่ารูปปากจะเข้าที่
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ริมฝีปากคือ หลังฉีดจำเป็นต้องดูแลปากอย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยห้ามรับประทานของร้อน ของเผ็ด หรืออาหารที่มีรสจัด เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อสารฟิลเลอร์ที่ฉีดลงไปในริมฝีปากได้ อีกทั้งต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากฉีดโดยบุคคลที่ขาดความชำนาญก็จะทำให้เกิดอันตรายข้างเคียงของริมฝีปากได้
สนใจติดต่อสอบถาม The Clover Clinic
สาขาสยามสแควร์วัน ชั้น 6 : 092-761-1931
สาขา สัมมากรเพลสราชพฤกษ์ : 097-081-2817
สาขา เซ็นทรัลบางนา ชั้น 14 โซนทาวเวอร์ : 090-909-3547
Line ID : @thecloverclinic หรือแอดเลย https://line.me/R/ti/p%40thecloverclinic
Website : www.thecloverskinclinic.com
ขอบคุณข้อมูลจาก : vsquareclinic
Facebook : www.facebook.com/thecloverclinic