วิตามินบีรวม เป็นกลุ่มสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพร่างกาย โดยสามารถละลายในน้ำได้ เราจึงจำเป็นจะต้องกินอาหารให้หลากหลายเพื่อเพิ่มวิตามินบีรวมให้เพียงพอในแต่ละวัน แต่การใช้ชีวิตของผู้คนส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่เพียงพอจึงเสี่ยงต่อการขาดวิตามินบีรวมได้ ซึ่งหากร่างกายขาดวิตามินบีดังกล่าวแล้วก็ย่อมทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและทำให้เจ็บป่วยตามมาได้ง่าย ดังนั้น อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการให้ร่างกายได้รับวิตามินบีรวมเสริมเข้าไปอย่างเพียงพอ การเลือกกินจากอาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน ว่าแต่ประโยชน์ของวิตามินบีรวมมีอะไรบ้าง วิตามินบีรวม ช่วยอะไรบ้าง และวิตามินชนิดนี้เหมาะกับใคร ไปติดตามกันเลย : ประโยชน์ของวิตามินซี
ประโยชน์ของ วิตามินบีรวม แต่ละชนิด
วิตามิน B1 (thiamine)
เป็นวิตามินบี ที่ช่วยในการเผาผลาญและเปลี่ยนสารอาหารที่กินเข้าไปให้กลายเป็นพลังงาน โดยสามารถช่วยป้องกันโรคเหน็บชา เสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงสมองและบำรุงประสาท : วิตามินบีรวม ยี่ห้อไหนดี
วิตามิน B2 (riboflavin)
ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน เสริมสร้างการเจริญเติบโต บำรุงผิว มีส่วนช่วยในการมองเห็นและบรรเทาอาการเมื่อยล้าของดวงตา : วิตามินบำรุงร่างกาย
วิตามิน B3 (niacin)
วิตามินบีช่วยในการเผาผลาญ ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ บำรุงประสาท บำรุงผิวพรรณ และทำให้เลือดไหลเวียนดี
วิตามิน B5 (pantothenic acid)
วิตามิน b ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากสารอาหารอย่างเพียงพอ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ลดการอักเสบ รักษาโรคเหน็บชาที่มือและเท้า
วิตามิน B6 (pyridoxine)
มีส่วนร่วมในการเผาผลาญกรดอะมิโนเพื่อผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยสร้างสารสื่อประสาท ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและดูดซึมสารอาหารต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น
วิตามิน B7 (biotin)
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรต ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้า ป้องกันโรคเกี่ยวกับเส้นผม เช่น ผมหงอก หัวล้าน หรือผมร่วง
วิตามิน B9 (folate)
เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยเผาผลาญกรดอะมิโน เสริมสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว ทำให้ร่างกายสมดุลแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยสร้างน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอด และแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ
วิตามิน B12 (cobalamin)
มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมองในการผลิต DNA ช่วยบำรุงเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยบำรุงความจำ เพิ่มสมาธิ ลดความเครียด และทำให้ร่างกายแข็งแรง
วิตามินบีรวม ช่วยอะไร และสามารถป้องกันโรคอะไรได้บ้าง
สำหรับ ประโยชน์ของวิตามินบีรวม นั้นมีด้วยกันหลายอย่าง แต่ในส่วนของวิตามินบีรวมที่มีต่อสุขภาพนั้น สามารถแจกแจงได้ ดังนี้
1.ทำให้อารมณ์ดี ช่วยลดความเครียด หรือความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจ
จากการศึกษาหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การกินวิตามินบีรวม สามารถยกระดับจิตวิญญาณและช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้ ซึ่งการทดลอง 33 วันในผู้ชายที่มีสุขภาพดีจำนวน 215 คนที่กินอาหารเสริมวิตามินบีรวม พบว่าพวกเขาเหล่านั้นมีสุขภาพจิตดี ความเครียดและความเหนื่อยล้าทางด้านจิตใจลดลง อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพของระบบความรู้ความเข้าใจให้สูงยิ่งขึ้นได้ด้วย
2.วิตามินบีรวม ช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า
วิตามินบีรวม อาจจะไม่ใช่หนทางรักษาอาการซึมเศร้าได้แต่อย่างใด แต่การกินวิตามินบีรวมจะช่วยให้ผู้ที่มีภาวะซึมเศร้าหรือมีความวิตกกังวลสูงมีอาการดีขึ้น โดยได้มีการศึกษาในผู้ใหญ่ 60 คน ที่มีภาวะซึมเศร้าด้วยการให้พวกเขากินอาหารเสริมวิตามินบีรวมเป็นประจำรวมระยะเวลา 60 วัน พบว่าอาการซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ที่เป็นแบบนั้นเนื่องจากการที่มีระดับวิตามินบีในเลือดต่ำ โดยเฉพาะวิตามินบี 12, บี 6 และโฟเลต มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้
3.วิตามินบีรวม ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา
เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี 1 หรือได้รับวิตามินบี 1 น้อยเกินไป จะทำให้เกิดโรคเหน็บชาขึ้นได้ เนื่องจากวิตามินบี 1 มีหน้าที่เร่งการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้เปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลกลูโคสซึ่งร่างกายจะนำไปใช้งานต่อไป แต่เมื่อร่างกายได้รับปริมาณวิตามินบี 1 ที่ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลเสียทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร จนทำให้เกิดโรคเหน็บชา เหนื่อยง่าย หอบ หัวใจเต้นเร็วและมีอาการตับโตได้ ซึ่งอาการเหล่านี้หากไม่รักษาก็อาจจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงตามมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินลำบาก การสูญเสียความรู้สึกที่มือหรือเท้า การเป็นอัมพาตที่ขาส่วนล่าง และที่ร้ายแรงที่สุดคืออาจนำไปสู่ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้
4.เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดอาการปวดหัวไมเกรน
Riboflavin หรือวิตามินบี 2 จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญอาหารเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงาน และยังทำหน้าที่รักษาผิวหนังของเยื่อบุลำไส้และเซลล์เม็ดเลือดแดงให้แข็งแรง ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยลดการปวดหัวไมเกรนและการปวดต้อกระจกตา นอกจากนี้ยังช่วยรักษาสิว ลดการปวดของกล้ามเนื้อและลดอาการของโรคปลายประสาทมือชา
5.ช่วยรักษาโรคหนังกระ (Pellagra) และควบคุมคอเลสเตอรอล
ไนอาซินหรือวิตามินบี 3 เป็นสารอาหารที่ช่วยในระบบเผาผลาญเพื่อเปลี่ยนอาหารให้กลายมาเป็นพลังงานเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการขาดวิตามินบี 3 อาจทำให้เกิดโรคหนังกระ (Pellagra) รวมไปถึงปัญหาทางร่างกายด้านอื่นๆ เช่น ปัญหาทางด้านจิตใจ อาการท้องร่วง มีเมือกหรือเยื่อสมองอักเสบ ซึ่งการกินวิตามินบี 3 อย่างเพียงพอจะช่วยควบคุมระดับของคอเลสเตอรอลในร่างกายให้สมดุลได้
6.ช่วยให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุล
การรักษาความสมดุลของร่างกายมีผลต่อการได้รับกลุ่มวิตามินบีอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะวิตามินบี 5 ที่มีส่วนช่วยย่อยคาร์โบไฮเดรตและไขมันให้เป็นพลังงาน ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายทำให้ร่างกายสามารถเปลี่ยนกรดแพนโทธีนิกมาเป็นฮอร์โมนที่สมบูรณ์ซึ่งมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของร่างกายระดับสติปัญญาและอารมณ์
7.ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
โรคหัวใจเป็นโรคอันตรายอันดับต้นๆ ของคนไทย ส่วนหนึ่งที่ทำให้คนป่วยเป็นโรคหัวใจอันเนื่องมาจากการขาดวิตามินบี 6 ซึ่งวิตามินบี 6 โดยมีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาของเอนไซม์ในร่างกายมากกว่า 100 ชนิด นอกจากนี้ ยังช่วยเผาผลาญกรดอะมิโนและสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงขึ้นมาใหม่ ทำให้เลือดมีความแข็งแรงและสูบฉีดได้ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ ช่วยทำให้ร่างกายและกล้ามเนื้อแข็งแรง ลดอาการซึมเศร้า คลายความหงุดหงิดและวิตกกังวล ที่สำคัญยังช่วยบำรุงความจำให้ดีขึ้นลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความจำเสื่อมลงได้
8.ป้องกันโรคโลหิตจาง
โรคโลหิตจางเป็นอีกโรคหนึ่งที่มักพบได้ในคนส่วนใหญ่ สาเหตุหนึ่งเกิดมาจากการขาดวิตามินบี 12 เพราะวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดและรักษาเซลล์ประสาทส่วนต่างๆ ในร่างกาย เมื่อร่างกายขาดวิตามินบี 12 ก็จะเป็นโรคโลหิตจางได้ง่าย นอกจากนี้ ยังอาจมีผลกระทบด้านสุขภาพด้านอื่นๆ ด้วย เช่น มีอาการอ่อนเพลีย ท้องผูก น้ำหนักลด มีอาการเบื่ออาหารซึมเศร้า สับสน หรือเกิดภาวะสมองเสื่อมได้
9.ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็กให้เจริญเติบโต
เนื่องจากกรดโฟลิกหรือวิตามินบี 9 เป็นสารอาหารจำเป็นต่อการเจริญเติบโต ซึ่งคุณแม่ตั้งครรภ์จำเป็นต้องได้รับกรดโฟลิกประมาณ 600 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ได้
10.วิตามิน b รวม ช่วยรักษาบาดแผลให้หายได้อย่างรวดเร็ว
การกินวิตามินบีรวมจะช่วยรักษาบาดแผลให้หายเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งผู้ที่เป็นแผลสดและแผลเปื่อยก็มีแนวโน้มว่าอาการและความเจ็บปวดของบาดแผลจะลดลงเมื่อได้รับวิตามินบีที่เพียงพอ
11.ช่วยลดความอยากแอลกอฮอล์
การวิจัยหนึ่งพบว่าการได้รับวิตามินบีรวม อย่างเพียงพอจะช่วยลดการอยากดื่มแอลกอฮอล์ได้จริง เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด
12.รักษาโรคกระดูกพรุนและอาการ PMS
งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า โรคกระดูกพรุนและอาการ PMS ในผู้หญิงที่มีประจำเดือนนั้นลดลงหลังจากที่พวกเขาเหล่านั้นได้รับวิตามินบีรวมอย่างเหมาะสมเพียงพอ
วิตามินบีรวม เหมาะกับใคร ?
วิตามินบีรวม เป็นวิตามินที่มาพร้อมประโยชน์จัดเต็มกับการผสานวิตามินหลากหลายประเภทเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้กินง่าย และได้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่ ว่าแต่ วิตามินบีรวม เหมาะกับใครบ้าง ไปตามได้เลยดังนี้
1.พนักงานออฟฟิศ
ในแต่ละวันพนักงานออฟฟิศอาจจะมาพร้อมความเครียดจากการทำงาน บวกกับการไม่มีเวลากินอาหารอย่างเพียงพอ ซึ่งทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ง่าย วิตามินบีรวมจึงเหมาะสำหรับพนักงานออฟฟิศเพื่อกินบำรุงร่างกายให้มีพลังงานที่เพียงพอ และช่วยลดความเครียดได้
2.คุณแม่ตั้งครรภ์
เนื่องจากคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ จำเป็นต้องได้รับสารอาหารเพิ่มมากขึ้นเพื่อหล่อเลี้ยงทารกในครรภ์ให้มีสุขภาพแข็งแรง จึงจำเป็นต้องบริโภควิตามินบีรวมเพื่อบำรุงร่างกายให้กับทั้งตัวคุณแม่เองและทารก แต่อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีที่สุด
3.กลุ่มคนที่มีปัญหาสุขภาพ
โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วยโรคมะเร็ง โรคไทรอยด์ เนื่องจากวิตามินบีรวมมีส่วนช่วยฟื้นฟูความเสื่อมถอยของร่างกายให้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นได้ แต่ต้องกินโดยอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
4.ผู้คนทั่วไป ผู้สูงอายุ และผู้หญิงที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
บุคคลเหล่านี้ก็สามารถกินวิตามินบีรวมเพื่อช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกได้ โดยหากกินในปริมาณที่เพียงพอต่อวันก็จะช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย ส่งผลทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า สมองปลอดโปร่ง และไม่เครียดง่าย
ประโยชน์ของวิตามินบีรวมนั้นมีมากมาย ช่วยบำบัดและป้องกันปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้หลายด้าน แต่อย่างไรก็ตาม การกินอาหารเสริมในปริมาณสูงเกินไป โดยเฉพาะวิตามินบี 3 หรือวิตามินบี 6 อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ดังนั้นควรกินอาหารเสริมอย่างพอดี โดยควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ร่วมด้วย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง และช่วยให้ห่างไกลจากปัญหาต่างๆ ได้แล้ว